top of page
วัดภูเขาทอง

วัดภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เจดีย์เก่าแก่สมัยครั้งเสียกรุง ฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ลูกหลานได้เฉยชม เป็นอีกโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญและควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม แม้จะกลายเป็นวัดร้างมาตั้งแต่สมัยตอนเสียกรุง แต่มหาเจดีย์ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้อยู่เสมอ

 

วัดภูเขาทอง ตั้งอยู่บนโคกซึ่งพื้นที่โดยรอบมีน้ำท่วมถึง ทั้งยังเป็นพื้นที่ยุทธภูมิครั้งสำคัญระหว่างกองทัพอยุธยากับกองทัพพม่า ทั้ง 2 ยุคสมัยของการเสียกรุง ซึ่งในคราวสงครามสมัยก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกนั้น ได้มีการขุด คลองมหานาค เพื่อความสะดวกในการคมนาคมระหว่างพระนครด้านแม่น้ำลพบุรีกับวัดภูเขาทองนี้ เขตพุทธาวาสของวัดยังปรากฏแนวกำแพงแก้วล้อมรอบ ยาวรวม 688 เมตร จากประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออก ซึ่งมีถนนมาถึงในปัจจุบันเป็นฐานของวิหารขนาดเล็ก ถัดไปเป็นอุโบสถใหญ่ (ขนาด 11 × 40 เมตร) ด้านหน้าอุโบสถเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองที่ยังสมบูรณ์อยู่ทั้ง 4 องค์ ก็เป็นอันสิ้นสุดเขตพุทธาวาส นอกออกไปนั้นเป็นเขตสังฆาวาส หลังการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 วัดนี้เป็นวัดร้างเรื่อยา แต่พระมหาเจดีย์ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่มีคนเดินทางมากราบไหว้ ดังเช่นที่ปรากฏเป็น นิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่ ที่เดินทางมานมัสการในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดนี้มีพระมาจำพรรษาอีกครั้งนับแต่ปี พ.ศ.2500 และในปัจจุบัน บนกลางถนนของทางเข้ายังวัดแห่งนี้ ได้สร้าง อนุสาวรีย์พระนเรศวรทรงม้าศึก ไว้ด้วย 

เจดีย์ภูเขาทอง เป็นมหาเจดีย์สำคัญ ตั้งอยู่นอกเกาะกรุงศรีอยุธยา ด้านตะวันตกเฉียงเหนือไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงถึง 90 เมตร ส่วนเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นมหาเจดีย์สำคัญที่อยู่นอกเกาะด้านตะวันออกเฉียงใต้ที่สูงกว่าเจดีย์ภูเขาทองเพียง 2 เมตร  พระราชพงศาวดารอยุธยากล่าวว่า วัดภูเขาทอง นั้น สถาปนาในรัชสมัยพระราเมศวร หรือสมัยต้นอยุธยา แต่ไม่มีรายละเอียดถึงสิ่งก่อสร้างสมัยนั้น ขณะเดียวกันก็ยังได้ระบุไว้ด้วยว่า ในคราวสงครามที่พระเจ้าบุเรงนองแห่งพม่ามีชัยเหนืออยุธยาในคราวเสียกรุง ครั้งที่ 1 พ.ศ.2112 นั้น พระเจ้าบุเรงนองทรงให้สร้างเจดีย์ก่อทับองค์เจดีย์เดิมของวัดแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบของเจดีย์เช่นกัน

 เจดีย์ภูเขาทอง ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้น่าจะได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้เป็นมหาเจดีย์สูงเด่นในระหว่างรัชสมัยพระมหาธรรมราชาถึงสมัยพระเพทราชา (ระหว่าง พ.ศ.2112 - 2246) และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งในสมัยพระเจ้าบรมโกศ หรืออยุธยาตอนปลาย นั่นคือ มีฐานทักษิณ 4 ชั้น เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสโดยชั้นพื้นยาวด้านละ 69 เมตร ชั้นที่ 2 ยาวด้านละ 63 เมตร ชั้นที่ 3 ยาวด้านละ 49.4 เมตร และชั้นที่ 4 ยาวด้านละ 32.4 เมตร ทั้ง 4 ด้านมีบันไดขึ้นไปจนถึงฐานทักษิณชั้นบนสุด บนชั้นนี้มีฐานสี่เหลี่ยมขององค์เจดีย์ที่มีอุโมงค์รูปโค้งเข้าไปข้างใน ซึ่งมีพระพุทะรูปประดิษฐานอยู่ 1 องค์ สูงขึ้นไปเป็นฐานแปดเหลี่ยม องค์ระฆัง บัลลังก์ ส่วนเหนือขึ้นไปที่เป็นปล้องไฉน ปลียอด และลูกแก้วนั้น ของเดิมได้พังไปแล้วตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้มีการซ่อมแซมขึ้นใหม่ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อปี พ.ศ.2499 ในครั้งนั้น ได้ทำลูกแก้วด้วยทองคำหนัก 2,500 กรัม อันหมายถึง การบูรณะในวาระฉลอง 25 พุทธศตวรรษของไทยนั่นเอง เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญ ฃอีกแห่งหนึ่งของ จ.พระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะเวียนมาชมสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยากันมากมาย คนไทยที่ยังไม่เคยไปสัมผัส ต้องไปเยือนสักครั้งน่ะครับ ชิลดีและปลื่้มใจแน่นอน ที่ครั้งหนึ่งเราได้มาสัมผัสฝีมือมหาเจดีย์ที่ก่อสร้างโดยบรรพบุรุษของเราเอง 

 

การเดินทาง  วัดภูเขาทองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากพระราชวังหลวงไปประมาณ 2 กิโลเมตร ทางเดียวกับที่ไปจังหวัดอ่างทอง ทางหลวงหมายเลข 309 จะมีป้ายบอกทางแยกซ้ายไปวัดภูเขาทอง

© 2023 by EDDIE BAKER. Proudly created with Wix.com

bottom of page